Customer Reviews

Lullaby  ตุ๊กตากล่อมวิญญาณ (มายาโรส)
5
โดย: FoFrank วันที่เขียนรีวิว: 26 กรกฏาคม พ.ศ. 2557

จะเต้นระบำ...ยามเธอหลับไหล จะกรีดร้อง...ให้เธอฝันดี
จะขับกล่อมราตรี...ด้วยเสียงสะอื้น และค่ำคืนนี้...จะมี คนตาย!

Lullaby ตุ๊กตากล่อมวิญญาณ Chapter 9 ราศีกันย์ ในนิยายชุด Deathly Zodiac เรื่องราวของคนที่เกิดในราศีต่าง เมื่อต้องเผชิญกับวิญญาณ 12 เรื่อง 12 นักเขียน เวินกันมานำเสนอความน่ากลัวแบบไม่ซ้ำ

ต้องขอบอกไว้ก่อนนะครับ ว่าผมใช้เวลาอ่านเล่มนี้นานมาก ไม่ใช่ว่าเรื่องมันยาวหรือว่ายังไงหรอกนะครับ แต่ตัวผมเป็นคนที่มีอคติกับตุ๊กตาอยู่แล้วน่ะครับ เพื่อนๆคงเคยเห็นตุ๊กตาเด็กผู้หญิงที่กระพริบตาได้ใช่มั้ยครับ นั้นแหละครับ ผมขอเล่านอกเรื่องนิดนะฮะ เรื่องมีอยู่ว่าตอนเด็กน้าผมชอบเล่าเกี่ยวกับละครตุ๊กตาผีให้ฟัง และที่บ้านก็มีตุ๊กตาลักษณะแบบนั้นอยู่ ผมกลัวจึงแอบเอาไปทิ้งถังขยะ แต่พออีกวันมันดันกลับมาอยู่ในบ้าน โดนที่ไม่ได้มีใครไปเออากลับมา ผมจะบอกน้า น้าเลยเอามันไปไว้วัด ทำให้ผมไม่กล้าอ่านเรื่องนี้ แต่แฟนผมบังคับ ผมก็เลยต้องอ่าน มาเข้าเรื่องกันครับ อย่างที่ว่าครับ นิยายชุดนี้ทำมา12ราศี นี่เป็นราศีที่9 คือราศีกันย์ เรื่องเกิดขึ้นโดย กันยา พาหนูนา ลูกสาววัยแปดขวบไปเที่ยวสวนสนุกในงานวัด เด็กน้อยร้องขอให้ผู้เป็นแม่ซื้อตุ๊กตาสาวน้อยเริงระบำจากหญิงชราลึกลับกลับบ้าน และเมื่อไขลาน เสียงเพลงนั้นก็ทำให้หนูนาหลงใหลราวกับต้องมนต์สะกด ขณะที่กันยาเริ่มสัมผัสได้ว่ามีเงามืดแห่งหายนะกำลังคืบคลานมาช้าๆ หลังจากวันนั้นสิ่งแปลก ๆมากมายก็เริ่มเกิดขึ้นในบ้าน ชิงช้า ม้าหมุน โยกไหวเล่นเอง ราวกับมีคนไปแกว่งมัน บางครั้ง กันยาได้ยินเสียงร้องไห้ของเด็กผู้หญิงในเงามืด ในยามหลับใหล มือเย็นเฉียบของใครสักคนกอดเธอไว้อย่างโหยหา คนรอบข้างกันยา เริ่มตายลงทีละคน ทีละคน และทุกครั้งที่มีคนตาย บทเพลงกล่อมวิญญาณจะถูกขับร้อง และและมันทำให้หญิงสาวค่อยๆพบกับความลับที่ซ่อนอยู่ในจิตใจของเธอ ความทรงจำอันแสนชิงชัง อดีตดำมืดที่พยายามหลับหนี หรือว่าที่จริงแล้วมันกำลังกลับมาหลอกหลอน

นิยายเรื่องนี้ถ้าเปรียบเทียบกับนิยายในสำนักเดียวกัน เรื่อง Porcelain ตุ๊กตาอาฆาต ถือว่าดีกว่ามากเพราะการดำเนินเรื่องที่น่ากลัวกว่ามาก และดาทางได้ยาก เรื่องตุ๊กตาอาฆาตเดาง่ายไปหน่อย เลยไม่ค่อยสนุก แต่เรื่องนี้ทำให้ผมอ่านได้ช้ามาก ทั้งที่ปกติผมใช้เวลาอ่านรวดเดียว แต่เรื่องนี้ผมอ่านแล้วต้องพัก เพราะไม่กล้าอ่านต่อ บอกเลยว่าน่ากลัวครับ ขวัญอ่อนแนะนำว่าอย่าอ่านดีกว่าครับผม อิอิ
Milly mall ห้างศพสินค้า
5
โดย: FoFrank วันที่เขียนรีวิว: 25 กรกฏาคม พ.ศ. 2557

ห้างดังในวันวาน...บริการด้วยวิญญาณชั้นดี คุณลูกค้าอย่าพึ่งหนี...เรามีความตายให้ทุกเวลา

Milly Mall ห้างศพสินค้า นิยายสยองขวัญโดย ปองวุฒิ นักเขียนที่มีสไตล์การเล่าเรื่องที่น่าสนใจมากคนหนึ่ง นิยายเรื่องนี้เกี่ยวกับห้างผีสิง แค่บ้านผีสิงก็ขนลุกขนพองพอแล้ว แต่นี่เป็นห้างเลย ต้นกำเนิดเรื่องนี้ เกิดขึ้นเมือ Milly Mall ห้างดังในอดีตที่เคยประสบความสำเร็จเป็นอย่างยิ่งในยุคนั้นได้มีเหตุเพลิงไหม้ครั้งใหญ่หลังจากธุรกิจที่ซบเซาเป็นอย่างมาก ในขณะที่ห้างเกิดเพลิงไหม้นั้น ห้างยังอยู่ในเวลาทำการอยู่ทำให้พนักงานเสียชีวิตทั้งหมด ส่วนลูกค้าที่พยายามหนีตาย บ้างก็รอดบ้างก็ไม่รอด กลายเป็นโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ที่ไม่มีผู้ใดที่เคยไปห้างแห่งนั้นลืมได้ลงเลย ห้างปิดตัวลงโดยที่มีผู้คนเสียชีวิตมากมาย เหลือไว้เพียงซากห้างร้างเป็นอนุสรณ์ที่ให้คนได้นึกถึง ความยิ่งใหญ่ของมันและจุดจบอันน่าสะพรึงเช่นนี้ เมื่อเวลาล่วงเลยผ่านไป ชลธิชา นักศึกษาสาวที่ได้เลือกลงททำรายงานเกี่ยวกับประวัติศาสตร์การตลาดได้เลือก มิลลี่มอล ห้างชื่อดังซึ่งได้ปิดตัวไปเมื่อสิบห้าปีที่แล้ว เธอได้ชวน คัชพล แฟนหนุ่มไปสำรวจห้างในปัจจุบันเพื่อเก็บข้อมูล ทว่าเกิดเหตุไม่คาดฝัน เมื่อทั้งคู่ได้ถูกขังไว้ในห้างดังพร้อมกับกลุ่มคนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเด็กเกรียนมัธยมที่กำลังซ่าส์ นักเขียนนิยายสยองขวัญ และกลุ่มคนเร่ร่อน ซึ่งพวกหลังเล่าให้ฟังว่า มีเสียงร่ำลือกล่าวขานเรื่องวิญญาณตายโหงสุดเฮี้ยนติดค้างอยู่ในห้าง ขณะที่ทุกคนกำลังจะหาทางออกจากห้าง ก็ได้เกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้น ห้างที่ผุพังได้กลับคืนชีวิตวิญญาณพนักงานและลูกค้าในสภาพศพอันแสนสยดสยองก็ปรากฏตัวขึ้น ทำเอาทุกคนหนีกระเจิงไปคนละทิศคนละทาง ชลธิชาสังเกตุว่าถ้ายอมเล่นบทลูกค้าชั้นดีวิญญาณสุดเหี้ยมเหล่านั้นจะไม่เข้ามาทำร้าย แต่การคุมสตินั้นก็เป็นเรื่องยาก เมื่อ มิลลี่ มอลล์ ไม่ได้มีเพียงสินค้าธรรมดา ทว่าเต็มไปด้วยสิ่งของที่น่าสยดสยองยิ่งนัก ทางรอดทางเดียวคือต้องหนี แต่ไม่ง่ายเพราะ ต้องฝ่า กองทัพผี ซึ่งมีอยู่ทุกชั้นทุกแผนก

โดยส่วนตัวผมชอบนิยายเล่มนี้มากครับ เพราะเรื่องมันสยองมากๆ ผีออกมาเป็นกองทัพอย่างกับซอมบี้เลย แถมผู้เขียนยังใส่ตัวเองเข้าไปอยู่ในเรื่อง มันเป็นอะไรที่กวนมากครับ แต่ผมชอบ ใครจะรู้ว่าผู้เขียน เขียนได้หักมุมหลายชั้นมากๆ และผีในเรื่องโหดมากๆครับขอบอกแต่บทนำก็มีคนตายเพราะวิญญาณโหดพวกนี้ อ่านไปลุ้นไปครับ การดำเนินเรื่องไวไม่ยืดเยื้อ วางไม่ลง อ่านวันเดียวจบครับผม
Bunraku บันรากุ...หน้ากากฆาตกรรม(ภาคินัย)
3
โดย: FoFrank วันที่เขียนรีวิว: 18 กรกฏาคม พ.ศ. 2557

เรื่องราวสยองขวัญนี้ถูกแต่งขึ้นโดย ภาคินัย กสิรักษ์ เป็นนิยายเล่มแรกในซีรีย์ 6 scream หลังจาก ซีรีย์ชุด7วันจองเวรได้ประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลายทำให้ มีซีรีย์เกิดขึ้นอีกครั้ง เรื่องราวเกิดขึ้นโดยการพบศพของหญิงสาวคนหนึ่งที่ถูกเผาตายทั้งเป็น ทว่า หญิงสาวผู้นั้นได้ใส่หน้ากากบันรากุเอาไว้ เรื่องราวไม่ได้จบลงแค่เท่านั้น ยังมีคดีที่2,3 ตามมา ทำให้ อาร์ต , เติ้ล และวนิดา ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหยื่อต้องตามหาตัวฆาตกรก่อนที่จะเป็นเหยื่อเสียเอง ด้วยความอยากรู้นำพาให้พวกเขาเข้ามาเกี่ยวพันกับเรื่องนี้ ก่อนที่จะตาบแบบไม่รู้ตัว จึงนำพวกเขาเข้ามาในประโยคที่ว่า มีหัวต้องรู้จักคิด อยากมีชีวิตก็ต้องแลก

จุดเด่นของเรื่องนี้ คือความตื่นเต้นเวลาเหยื่อถูกบังคับให้เล่นเกมที่ต้องแลกด้วยอะไรบางอย่างที่ตัดสินใจยากที่สุด หรือแลกไปแบบไม่รู้ตัว โดยการดำเนินไป เป็นเกมฆาตกรรมที่เหยื่อจะต้องตัดสินใจแลกบางอย่าง เพื่อเอาชีวิตรอด ทำให้เกิดความคล้ายคลึงกับหนังต่างประเทศเรื่องนึงที่มีลักษณะแบบนี้ และในตัวหนังก็มีหุ่นที่ใส่หน้ากากคล้ายกับคนในเรื่องนี้ทำผมคิดว่า การดำเนินเรื่องของนิยายเรื่องนี้ไม่ใช่ออริจินัลไอเดีย และตอนจบก็จบคล้ายกับหนังเช่นกัน ทำให้เสียอรรถรสไป แต่ถ้าเป็นผู้ที่ได้ไม่ดูหนังเรื่องsawมาอาจจะสนุกไปกับเรื่องราวนี้ก็ได้ เพราะมีการหักมุมหลายชั้นหลายขั้นตอนทำให้ผู้อ่านคิดตามไม่ทันตื่นเต้นและลุ้นไปกับหนังสือเล่มนี้ ในบางตอนอาจมีเนื้อหารุนแรงเกี่ยวกับการฆาตกรรม ทำให้ผู้อ่านต้องใช้วิจารณญาณในการอ่าน ในตัวเรื่องจะตัวละคร3ตัวที่สืบหาความจริงเกี่ยวกับการฆาตกรรมต่อเนื่องนี้เพราะ เหยื่อทุกคนล้วนมีส่วนเกี่ยงข้องกับพวกเขา เบาะแสเพียงน้อยนิดที่จะสามารถเสาะหาตัวฆาตกรได้ เพราะการตายของเหยื่อไม่ได้ตายแบบปกติ การตายเหล่านั้นล้วนมีอุปกรณ์ที่ทำให้เหยื่อแลกเพื่อกระทำด้วยตัวเอง มิเช่นนั้นเหยื่อก็จะตายไป บางคนก็ตายเพราะเรื่องเล็กน้อยที่ฆาตกรไม่พอใจ จนเป็นเหตุให้เหยื่อต้องตายหรือพิการและเสียสติไปในที่สุด และตำรวจก็ไม่สามารถหาเบาะแสได้ เพราะการตายทุกครั้งเหมือนเหยื่อฆ่าตัวตาย เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไรต้องลองอ่านดูครับ

นอกจากนี้สไตล์การเริ่มเรื่องเป็นจุดที่สนุกครับ เพราะจะมีลุงเป็นคนเฝ้าศพมาเล่าเรื่องของศพที่อยู่ในห้องดับจิต และมีหนุ่มคนหนึ่งจะมารับหน้าที่แทนแกแกจึงเล่าให้ฟัง และที่น่าสนุกคือเรื่องทุกเรื่องในซีรีย์นี้ล้วนมีความเกี่ยวพันกันทั้งหมด เล่มนี้ไม่ใช่เล่มที่ดีที่สุดในซีรีย์ แต่ถ้าไม่อ่านก่อนอาจจะเสียอรรถรสไปครับ เพราะเล่มอื่นๆอาจมีการพูดถึง และเราอาจจะไม่เข้าใจ แนะนำให้อ่านเรียงเล่มไปดีกว่าครับ
Apsara สาปอัปสรา (ภาคินัย)
4
โดย: FoFrank วันที่เขียนรีวิว: 18 กรกฏาคม พ.ศ. 2557

นิยายเล่มที่3ในซีรีย์ 6 scream โดย คุณ ภาคินัย เจ้าเก่าของเรา เล่าถึงเรื่องราวของกลุ่มคนที่จำเป็นต้องเช้าไปในป่าอาถรรพ์ ด้วยเหตุผลที่แตกต่างกัน ใบบัว หญิงสาวผู้ตามหา ดนัย ชายหนุ่มอันเป็นที่รักของเธอ ซึ่งเป็นหนึ่งในนักบินฝึกหัดที่สาปสูญไปในป่าแห่งนี้ ประจวบเหมาะกับที่ หมอภาคย์และอาจารย์แทนกาย ที่เดินทางมายังป่าลึกลับเพื่อนำทับหลังอัปสรา มาคืนที่ๆมันจากมาแต่ไม่มีใครกล้านำทางเข้าย่างกายไปในป่าลึกลับแห่งนี้ ดิน ลูกชายของนายพรานที่นำทับหลังออกมา จำใจต้องพาพวกเข้าเข้าไปในดินแดนป่าลึกลับแห่งนั้น เพื่อหวังปลดปล่อยวิญญาณผู้เป็นพ่อ ใบบัวจึงขออาศัยเข้าไปเพื่อตามหาคนรัก เผื่อว่าจะพบเบาะแสอะไรบ้าง โดยที่พวกเขาไม่รู้เลยว่า การเข้าไปในครั้งนี้ เค้าจะต้องพบเจอกับอะไร สิ่งเร้นลับ คำสาปแช่ง รอการกลับมาชดใช้การกระทำอันเลวทรามของพวกเขาในครั้งอดีตชาติ เลือดพวกของพวกระยำ ที่เคยทำให้เจ็บปวด คือสิ่งที่นางอัปสราต้องการ เรื่องนี้จึงมีโคลงกลอนอันน่าขนลุก ในตอนเริ่มเรื่องที่ว่า
อย่าพูดถึงจระเข้...หากจะขึ้นเรือ
อย่าปริปากเอ่ยถึงเสือ...หากจะเข้าป่า
ริเข้าเมืองมาร...อย่ากล่าวขานถึงนางรำอัปสรา
เพราะหัวอาจ ‘หลุดจากบ่า’ แล้วจะหาว่า ‘ไม่เตือน!’
จุดเด่นของเรื่องนี้คือการที่ตัวละครต้องเดินทางเข้าไปในป่าครับ พวกเข้าต้องเจอกับอะไรมากมายเพราะสิ่งที่พวกเขาได้ทำไว้ในชาติปางก่อน ได้ดลบันดาล ไม่สิ มีบางสิ่งที่ทำให้พวกเขากลับมาเจอกัน และมุ่งหน้าไปในเมืองลับแลที่ไม่ได้ปรากฎอยู่บนแผนที่ เพียงเพราะทับหลังผีสิงอันเดียวพาพวกเขาเข้าไปไกลถึงขนาดนั้น เมืองลับแลที่สร้างด้วยทอง พอเอาทับหลังอัปสราออกมากลับกลายเป็นหินเสียอย่างนั้น จึงนำพาให้ตัวละครได้ทับหลังมาเพราะผีนางอัปสรา ด้วยอาถรรพ์ทำให้พวกเขาต้องเอาของมาคืนที่ นำพาไปสู่การแก้แค้นในสมัยอดีตชาติที่พวกเขาได้ทำระยำเอาไว้ พาพวกเขาไปสู้ความตายโดยไม่รู้ตัว
เรื่องนี้สไตล์การเล่าเรื่องสนุกครับ เหมือนดูหนังของอาฉลอง เลย เข้าป่า ตามหาอังกอร์ไรแบบนั้น และมีการจบแบบหักมุมจนตกใจเลยครับ ถือว่าสนุกในระดับนึงครับผม เพราะสไตล์เรื่องมันดูคุ้นๆ เหมือนหยิบตงนู้นตรงนี้มาใส่ ทำให้เกิดเรื่องใหม่มา และได้ข่าวมาว่า ซีรีย์ชุดนี้ได้ถูกซื้อไปทำเป็นละครแล้วครับ ถ้าอยากรู้ว่าเป็นอย่างไรก็ลองหยิบยกขึ้นมาอ่านก็ไม่เสียหายครับผม ถ้าเป็นละครแล้ว เราก็คงได้ลุ้นกันว่าเรื่องจะเป็นแบบไหน ทุกเรื่องในซีรีย์เชื่อมกันทั้งหมดครับผม
www.batorastore.com © 2024